设为首页 加入收藏
  • 首页
  • 人间烟火长
  • 宇宙主宰
  • 神游
  • 微微一笑很倾城
  • 凉生,我们可不可以不忧伤
  • 狼殿下
  • 当前位置:首页 > 恋爱八点档 > เทรนด์ Biodiversity เข้มมาแรงส่อกระทบส่งออกเกษตร

    เทรนด์ Biodiversity เข้มมาแรงส่อกระทบส่งออกเกษตร

    发布时间:2025-06-13 20:00:29 来源:脚踏实地网 作者:帝道为王

    ข่าวเศรษฐกิจ29 พ.ค. 68 12:26น.2025-05-29

    • Facebook iconFacebook
    • Twitter iconTwitter
    • LINE iconLine

    ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ชี้ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) กำลังเป็นมาตรฐานใหม่ด้าน ESG ที่ประเทศคู่ค้ามีแนวโน้มจะนำมาบังคับใช้มากขึ้น คาดกระทบผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรและอาหารไทย โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเนื้อสัตว์แปรรูปและอาหารสัตว์ ซึ่งมีมูลค่าส่งออกไปสหภาพยุโรปรวมกันกว่า 6 หมื่นล้านบาทต่อปี แนะผู้ประกอบการเร่งปรับตัวสู่มาตรฐาน Biodiversity อย่างจริงจัง เริ่มจากเลือกวัตถุดิบจากแหล่งยั่งยืน มีระบบตรวจสอบย้อนกลับ และสร้างความร่วมมือตลอดห่วงโซ่อุปทาน

    นายสุปรีย์ ศรีสำราญ ผู้อำนวยการฝ่าย ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS (KTB) เปิดเผยว่า Biodiversity กำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลกมากขึ้น โดย World Economic Forum ประเมินว่าการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพอาจส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจกว่า 44 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราวครึ่งหนึ่งของ GDP โลก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงอย่างมีนัยสำคัญระหว่างธรรมชาติกับเศรษฐกิจ ขณะที่บริษัทขนาดใหญ่ระดับโลกในกลุ่ม Fortune Global 500 มีแนวโน้มขยายพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อมไปสู่การจัดการความหลากหลายทางชีวภาพอย่างจริงจัง มากกว่าการมุ่งเน้นเฉพาะการลดการปล่อยคาร์บอน

    ทั้งนี้ ความหลากหลายทางชีวภาพ ไม่ได้หมายถึงแค่การอนุรักษ์สัตว์ป่า เช่น เสือหรือหมีขั้วโลก แต่ครอบคลุมทั้งความหลากหลายในระดับพันธุกรรม ชนิดพันธุ์ และระบบนิเวศ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อสมดุลของธรรมชาติ และประเด็นนี้กลายเป็นประเด็นสำคัญในเวทีโลก โดยเฉพาะหลังการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (COP15) ในปี 65 ที่มีการตั้งเป้าหมายในการปกป้องพื้นที่ธรรมชาติไม่น้อยกว่า 30% ของพื้นที่ทั้งหมดภายในปี 73

    โดยความตกลงดังกล่าว สะท้อนความจริงจังของนานาชาติ และเป็นแรงกดดันสำคัญที่ทำให้ภาคธุรกิจต้องตระหนักว่า ประเด็นนี้ไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ แต่จะเป็นทั้งโอกาสทางธุรกิจและความเสี่ยง

    ด้าน นายปราโมทย์ วัฒนานุสาร นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS กล่าวเสริมว่า ธุรกิจเกษตรและอาหารไทยเผชิญความเปราะบางจากประเด็น Biodiversity ทั้งจากผู้บริโภคที่ตระหนักเรื่อง Biodiversity มากขึ้น ขณะที่มาตรการทางการค้า และการเปิดข้อมูลก็เข้มงวดขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการขับเคลื่อนจากหน่วยงานในไทย ซึ่งรวมไปถึงมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Thailand Taxonomy) ระยะที่ 2 ของภาคเกษตรก็มีแนวปฎิบัติที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง Biodiversity ด้วย

    ตลอดจนปัญหาสงครามการค้า ที่อาจผลักดันให้ไทยต้องเปิดตลาดสินค้าเกษตรมากขึ้น เสี่ยงต่อการนำเข้าวัตถุดิบสินค้าเกษตรจากแหล่งที่มีการแผ้วถางป่า ซึ่งหากไทยนำวัตถุดิบเหล่านี้ไปแปรรูปและส่งออก อาจเสี่ยงต่อการถูกระงับการนำเข้าจากคู่ค้า กระทบความเชื่อมั่นและความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

    ดังนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรและอาหารที่อยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงและจำเป็นต้องเร่งปรับตัวสู่ Biodiversity ก่อน ได้แก่ ผู้ประกอบการสินค้าในกลุ่มเนื้อสัตว์แปรรูปและอาหารสัตว์ เนื่องจากเป็นสินค้าที่มักถูกจับตาในเรื่องกฎระเบียบและมาตรการการค้าระหว่างประเทศใหม่ ๆ ที่ให้ความสำคัญกับ Biodiversity ตลอดห่วงโซ่การผลิต และยังเป็นกลุ่มสินค้าที่พึ่งพาตลาดสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นตลาดที่ให้ความสำคัญกับ Biodiversity อย่างเข้มข้น

    โดยสินค้าในกลุ่มที่กล่าวมาข้างต้น มีมูลค่าการส่งออกไปสหภาพยุโรปรวมกันถึง 6 หมื่นล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นราว 7% ของมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารรวมของไทย ซึ่งอยู่ที่กว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี

    นายกฤชนนท์ จินดาวงศ์ นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS กล่าวเสริมว่า ธุรกิจเกษตรและอาหารควรเริ่มปรับตัวจากการเลือกวัตถุดิบที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับว่ามาจากแหล่งที่ไม่ทำลายป่าและระบบนิเวศ และการเร่งทำความเข้าใจและเตรียมความพร้อมสำหรับมาตรฐานและกฎระเบียบด้าน Biodiversity ที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงสร้างความร่วมมือกันทั้ง Ecosystem ซึ่งจะช่วยรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกและตอบสนองความต้องการของคู่ค้าและผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

    “ผู้ประกอบการควรต้องมีระบบตรวจสอบย้อนกลับตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงมือผู้บริโภค เพื่อสร้างความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจนให้ความสำคัญกับการรับรองจากมาตรฐานด้าน Biodiversity และการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ (Taskforce on Nature-Related Financial Disclosures: TNFD) รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือใน Ecosystem โดยพัฒนาโครงการด้าน Biodiversity เช่น เกษตรกรรมเชิงนิเวศ ที่สนับสนุนให้เกษตรกรเปลี่ยนจากเกษตรเชิงเดี่ยวมาใช้ระบบเกษตรผสมผสาน ลดสารเคมี รวมถึงร่วมมือกับองค์กรวิจัยเพื่ออนุรักษ์พันธุ์พืชและสัตว์พื้นถิ่น”นายกฤชนนท์ ระบุ

     

    โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 พ.ค. 68)

    • Facebook iconFacebook
    • Twitter iconTwitter
    • LINE iconLine
    Tags: Biodiversity, ESG, ความหลากหลายทางชีวภาพ, ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS, ส่งออกไทย, สุปรีย์ ศรีสำราญ, อาหารไทย, เกษตรกร
    • 上一篇:第477章 孩子叫高千鹤
    • 下一篇:第511章 本朝公主不和亲

      相关文章

      • 第229章 不怕不怕他不怕
      • 北欧女神负罪者隐藏红莲迷宫,红莲迷宫怎么进
      • Điều hiếm thấy ở Bí thư, Chủ tịch tỉnh Long An và Tây Ninh trước sáp nhập
      • 星穹铁道:我在仙舟开发手游
      • 第306章 岳母管天管地还管圆房
      • 联运环境再登央视新闻,助力江苏昆山打造垃圾分类“智慧样本”!
      • Điều hiếm thấy ở Bí thư, Chủ tịch tỉnh Long An và Tây Ninh trước sáp nhập
      • SGA34+5+8雷霆1
      • 第343章 三千银两漏洞百出
      • รวมไทยสร้างชาติ: ย้อนจุดเริ่มต้นถึงจุดจบของ “มรดกลุงตู่”?

        随便看看

      • 第391章 三更叶家要活埋了她
      • 鄂尔多斯的这匹“蒙古马”能发电
      • 麻辣烫标准英文名公布 麻辣烫Spicy Hot Pot你会写了吗?
      • Over 55? AT&T's new unlimited plan for seniors costs $35/month
      • 第289章 谁还不是个朕
      • 舅舅:《生化危机9:安魂曲》过几天就会有官方消息
      • 四年级状物作文:令我难忘的小鸭
      • 四年级的作文范例(10篇)
      • 第352章 主君动怒了
      • 当鸭子遇上硬核战术 搜打撤新游《逃离鸭科夫》登陆Steam新品节!
      • Copyright © 2025 Powered by เทรนด์ Biodiversity เข้มมาแรงส่อกระทบส่งออกเกษตร,脚踏实地网   sitemap